โรงพยาบาลสนับสนุนค่าใช่จ่ายในการรักษาน้องแมวจร
ประวัติการรักษา น้องแมว ถ่ายเหลว ความดันต่ำ อ้าปากหายใจ กลูโคสในกระเเสเลือดต่ำเเละมีภาวะติดเชื้อเเทรกซ้อน ทางโรงพยาบาลรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ช่วยเหลือน้องเเมวจรซึ่งมีเจ้าของเป็นผู้ขีดจำกัดทางการสื่อสารจึงทำให้การสื่อสารเป็นไปได้ยากคุณหมอต้องประเมินตรวจสุขภาพน้องเเมวว่าป่วยเป็นอะไร พบว่าน้องมีเเผลตามตัว ถ่ายเหลว ความดันต่ำ อ้าปากหายใจ กลูโคสในกระเเสเลือดต่ำเเละมีภาวะติดเชื้อเเทรกซ้อน โดยตรวจด้วยเครื่องมือ x-ray Ultrasound ตรวจเลือด หลังจากนั้นจึงทำการรักษาน้องโดยให้อยู่ในตู้ออกซิเจน้ป็นระยะเวลา5-7วัน พร้อมให้ยาเข้าทางเส้นเลือดเป็นระยะเวลา7วัน ทางโรงพยาบาลรู้สึกประทับใจที่ลูกค้าทั้งสองคนมีความรัก เเละห่วงใยสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างมาก โรงพยาบาลจึงตัดสินใจให้การสนับสนุนค่าใช่จ่ายในการรักษาทั้งหมด ถือว่าเป็นการช่วยเหลือชีวิตสัตว์ให้มีชีวิตรอดต่อไป ขอให้น้องใจบุญอยู่กับเจ้าของไปนานๆ
เราสามารถเลี้ยงแมวและสุนัขรวมกันได้รึป่าว
ข่าวสารและสาระน่ารู้ การเลี้ยงแมวและสุนัขรวมกัน: ความเป็นไปได้และข้อควรพิจารณา การเลี้ยงแมวและสุนัขรวมกันเป็นสิ่งที่หลายคนสงสัยว่าสามารถทำได้หรือไม่ และหากทำได้ ควรมีวิธีการจัดการอย่างไรเพื่อให้สัตว์เลี้ยงทั้งสองชนิดสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข บทความนี้จะอธิบายถึงความเป็นไปได้และข้อควรพิจารณาในการเลี้ยงแมวและสุนัขรวมกัน ความแตกต่างทางนิสัย แมวและสุนัขมีพฤติกรรมและลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน: แมว: มีนิสัยรักอิสระและขี้ระแวง บางครั้งอาจจะรู้สึกไม่ปลอดภัยเมื่อมีสิ่งมีชีวิตอื่นเข้ามาใกล้ สุนัข: มักเป็นสัตว์ที่มีนิสัยสังคม ชอบการมีเพื่อนและเล่นสนุก แต่บางครั้งอาจมีพฤติกรรมที่เกินขอบเขตหรือก้าวร้าวต่อสัตว์อื่น การแนะนำให้รู้จักกัน หากคุณมีทั้งแมวและสุนัข การแนะนำให้สัตว์ทั้งสองรู้จักกันเป็นขั้นตอนสำคัญ: การแยกพื้นที่ในช่วงแรก: เริ่มต้นโดยการแยกแมวและสุนัขไว้ในพื้นที่ที่แยกจากกัน ให้พวกเขาได้รู้จักกันผ่านกลิ่นซึ่งเป็นวิธีการทำความรู้จักของสัตว์ การสังเกตพฤติกรรม: เมื่อแนะนำสัตว์ทั้งสองให้เจอกัน ควรสังเกตพฤติกรรมของทั้งคู่และพร้อมที่จะเข้าแทรกแซงหากมีสัญญาณของความก้าวร้าว การใช้เวลาร่วมกันอย่างค่อยเป็นค่อยไป: เพิ่มเวลาที่ให้สัตว์ทั้งสองอยู่ร่วมกันทีละน้อย และให้เวลาในการปรับตัว การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เพื่อให้แมวและสุนัขสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสบายใจ ควรสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม: การสร้างที่หลบซ่อนสำหรับแมว: แมวมักต้องการพื้นที่ที่สามารถหลบซ่อนหรืออยู่คนเดียว ควรจัดหาที่หลบซ่อนเช่น ชั้นวางของสูงหรือพื้นที่ปิด การแยกพื้นที่สำหรับอาหารและน้ำ: การแยกพื้นที่ในการให้อาหารและน้ำเป็นสิ่งสำคัญเพื่อลดความขัดแย้งระหว่างสัตว์ทั้งสอง การฝึกอบรมและการสั่งสอน สุนัขและแมวสามารถเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันได้โดยการฝึกอบรม: การฝึกคำสั่งพื้นฐานให้สุนัข: เช่น คำสั่งให้นั่ง, รอ, หรือออกห่างจากแมว จะช่วยให้ควบคุมสถานการณ์ได้ดีขึ้น การให้รางวัลเมื่อมีพฤติกรรมที่ดี: ให้รางวัลแก่ทั้งแมวและสุนัขเมื่อพวกเขามีพฤติกรรมที่ดีหรือแสดงความสงบเมื่ออยู่ใกล้กัน บทสรุป การเลี้ยงแมวและสุนัขรวมกันนั้นสามารถทำได้ แต่ต้องมีการจัดการและการสอนที่เหมาะสม การให้เวลาสัตว์ทั้งสองในการปรับตัวและการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ สุดท้ายแล้ว การมีสัตว์เลี้ยงหลายตัวสามารถนำมาซึ่งความสุขและความสนุกสนานในบ้านของคุณ
วัคซีนที่แมวควรฉีด
ข่าวสารและสาระน่ารู้ วัคซีนที่แมวควรฉีด การฉีดวัคซีนให้แมวเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันการติดเชื้อโรคต่าง ๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของแมวและป้องกันการแพร่กระจายของโรคไปยังแมวตัวอื่น ๆ วัคซีนที่แมวควรได้รับมีดังนี้: 1. วัคซีนพื้นฐาน (Core Vaccines) วัคซีนพื้นฐานเป็นวัคซีนที่จำเป็นสำหรับแมวทุกตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกแมว: วัคซีนไข้หัดแมว (Feline Panleukopenia Virus – FPV) ป้องกันโรคไข้หัดแมวที่เกิดจากไวรัสซึ่งสามารถทำให้แมวมีอาการท้องเสีย อาเจียน และสูญเสียเม็ดเลือดขาว วัคซีนไวรัสไข้หวัดแมว (Feline Herpesvirus – FHV-1) และ วัคซีนไวรัสคาลิซิไวรัส (Feline Calicivirus – FCV) ป้องกันโรคไข้หวัดแมวและโรคทางเดินหายใจที่เกิดจากไวรัส FHV-1 และ FCV ที่ทำให้แมวมีอาการจาม น้ำมูกไหล และอาการทางเดินหายใจอื่น ๆ วัคซีนพิษสุนัขบ้า (Rabies) ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งเป็นโรคร้ายแรงที่สามารถแพร่เชื้อไปยังมนุษย์และสัตว์อื่น ๆ ได้ 2. วัคซีนเสริม (Non-core Vaccines) วัคซีนเสริมเป็นวัคซีนที่แนะนำสำหรับแมวที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อโรคบางชนิด: วัคซีนโรคเอดส์แมว (Feline Immunodeficiency […]
วัคซีนที่สุนัขควรฉีด
ข่าวสารและสาระน่ารู้ วัคซีนที่สุนัขควรฉีด: ความสำคัญและข้อควรรู้ การฉีดวัคซีนเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการป้องกันโรคต่างๆ ที่สามารถเกิดขึ้นกับสุนัขได้ วัคซีนช่วยสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายของสุนัข ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายแรง วันนี้เราจะมาแนะนำวัคซีนที่สุนัขควรฉีดเพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดีของพวกมัน 1. วัคซีนป้องกันโรคไข้หัดสุนัข (Distemper) โรคไข้หัดสุนัขเป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่สามารถแพร่กระจายผ่านทางอากาศและการสัมผัสกับของเหลวในร่างกายที่ปนเปื้อน เช่น น้ำลาย ปัสสาวะ หรืออุจจาระ การฉีดวัคซีนนี้จะช่วยป้องกันการติดเชื้อและลดอัตราการตายของสุนัขที่ได้รับเชื้อ 2. วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า (Rabies) โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคที่สามารถติดต่อจากสัตว์ไปยังมนุษย์ได้ ผ่านการถูกกัดหรือการสัมผัสกับน้ำลายของสัตว์ที่ติดเชื้อ วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้านี้จำเป็นต้องฉีดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดและรักษาความปลอดภัยทั้งกับสุนัขและคนรอบข้าง 3. วัคซีนป้องกันโรคพาร์โวไวรัส (Parvovirus) โรคพาร์โวไวรัสเป็นโรคที่สามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสกับอุจจาระของสัตว์ที่ติดเชื้อ โรคนี้สามารถทำให้สุนัขเสียชีวิตได้ภายในไม่กี่วันหากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที การฉีดวัคซีนป้องกันโรคพาร์โวไวรัสจะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อและการแพร่ระบาด 4. วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบ (Hepatitis) โรคตับอักเสบในสุนัขสามารถเกิดจากเชื้อไวรัส Adenovirus-1 ซึ่งสามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสกับของเหลวในร่างกายที่ปนเปื้อน การฉีดวัคซีนนี้จะช่วยป้องกันการติดเชื้อและลดความรุนแรงของโรค 5. วัคซีนป้องกันโรคหลอดลมอักเสบติดต่อ (Kennel Cough) โรคหลอดลมอักเสบติดต่อหรือที่รู้จักกันว่า Kennel Cough สามารถแพร่กระจายได้ง่ายในพื้นที่ที่มีสุนัขรวมตัวกันมากๆ เช่น ศูนย์พักพิงสุนัข โรงแรมสัตว์เลี้ยง หรือคลินิกสัตว์ วัคซีนนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและลดความรุนแรงของโรค 6. วัคซีนป้องกันโรคเลปโตสไปโรสิส (Leptospirosis) โรคเลปโตสไปโรสิสเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Leptospira […]
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับแมว
ข่าวสารและสาระน่ารู้ แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักและมีเสน่ห์อย่างยิ่ง นอกจากความน่ารักแล้ว ยังมีเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับแมวที่คุณอาจยังไม่รู้ 1. พฤติกรรมและการสื่อสาร เสียงร้อง: แมวมีเสียงร้องหลากหลายเสียง ซึ่งแต่ละเสียงมีความหมายต่างกัน เช่น เสียง “เมี้ยว” เพื่อเรียกร้องความสนใจ เสียง “กร๊อบ” เพื่อแสดงความพอใจ การถูตัว: การถูตัวกับเจ้าของหรือสิ่งของเป็นการทิ้งกลิ่นของตัวเองเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ การมองตา: แมวที่มองตรงๆ และกระพริบตาช้าๆ ให้กับเจ้าของ แสดงถึงความไว้วางใจและความรัก 2. สุขภาพและการดูแล อาหาร: แมวเป็นสัตว์กินเนื้อ อาหารที่เหมาะสมคืออาหารแมวที่มีโปรตีนสูงและสารอาหารที่ครบถ้วน การเลี้ยงดู: แมวต้องการพื้นที่ที่สะอาด ปลอดภัย และมีของเล่นเพื่อความเพลิดเพลิน การตรวจสุขภาพ: ควรพาแมวไปตรวจสุขภาพประจำปีและฉีดวัคซีนตามที่สัตวแพทย์แนะนำ 3. ประวัติและพันธุ์แมว ประวัติ: แมวเริ่มมีการเลี้ยงในบ้านเมื่อประมาณ 9,000 ปีก่อน ที่แถบตะวันออกกลาง โดยเป็นสัตว์ที่มีความสัมพันธ์กับมนุษย์ในการช่วยควบคุมสัตว์ศัตรูพืช พันธุ์แมว: แมวมีพันธุ์หลากหลายพันธุ์ เช่น แมวเปอร์เซีย (Persian), แมวสก็อตติช โฟลด์ (Scottish Fold), แมวเบงกอล (Bengal) และแมวไทย (Siamese) […]
แมวป่วยหรือติดโรคดูแลอย่างไร
ข่าวสารและสาระน่ารู้ แมวป่วยหรือติดโรคดูแลอย่างไร การดูแลแมวที่ติดโรคเป็นเรื่องที่สำคัญเพื่อให้แมวของคุณฟื้นฟูสุขภาพและป้องกันการแพร่กระจายของโรคไปยังสัตว์อื่นๆ หรือมนุษย์ คำแนะนำในการดูแลแมวที่ติดโรคมีดังนี้ พาไปพบสัตวแพทย์ หากคุณสงสัยว่าแมวของคุณติดโรค ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม แยกจากสัตว์เลี้ยงอื่นๆ หากคุณมีสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ควรแยกแมวที่ติดโรคออกจากสัตว์เลี้ยงตัวอื่น เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค รักษาความสะอาด ทำความสะอาดพื้นที่ที่แมวอยู่อาศัยเป็นประจำ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค ให้ยาและการรักษาตามที่สัตวแพทย์แนะนำ ปฏิบัติตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ในการให้ยาและการรักษา รวมถึงการให้วิตามินหรืออาหารเสริมที่จำเป็น ดูแลสุขภาพทั่วไปของแมว ให้แมวมีอาหารที่มีคุณภาพ น้ำดื่มสะอาด และที่นอนที่อบอุ่นและสะอาด สังเกตอาการและการเปลี่ยนแปลง สังเกตการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมและอาการของแมว หากพบสิ่งผิดปกติ ควรปรึกษาสัตวแพทย์ทันที ป้องกันการติดเชื้อเพิ่มเติมพยายามป้องกันแมวจากการติดเชื้ออื่น ๆ ด้วยการฉีดวัคซีนและการป้องกันพยาธิ การดูแลแมวที่ติดโรคอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอจะช่วยให้แมวฟื้นฟูสุขภาพได้เร็วขึ้นและลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายของโรคไปยังสัตว์และคนอื่นๆ
วิธีดูแลแมว ในช่วงหน้าฝน
ข่าวสารและสาระน่ารู้ การดูแลแมวในช่วงหน้าฝนนั้นสำคัญอย่างยิ่งเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงทำให้แมวมีความเสี่ยงต่อการป่วยเป็นอย่างมาก นี่คือบางเคล็ดลับที่สามารถช่วยในการดูแลแมวในช่วงหน้าฝน 1.สะอาดและแห้ง ให้แมวอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แห้งและอบอุ่นเสมอ เพื่อป้องกันการเกิดโรคหวัดหรือไข้หวัดให้มั่นใจว่าสิ่งแวดล้อมของพวกเขาสะอาดและแห้งอยู่เสมอ 2.เตรียมเตียงนอน สร้างที่นอนที่อบอุ่นและห่างจากบริเวณที่มีลมเย็น ที่นอนที่เปียกชื้นสามารถทำให้แมวเป็นหวัดได้ง่ายขึ้น 3.อาหารและน้ำ ให้แมวมีอาหารและน้ำให้เพียงพอตลอดเวลา นอกจากนี้ยังควรเติมอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มเติมเมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง 4.การฉีดวัคซีน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแมวได้รับวัคซีนที่เหมาะสม เช่น วัคซีนป้องกันโรคหวัดหรือโรคทางเดินหายใจอื่นๆ ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของพวกเขาในช่วงฤดูฝน 5.การตรวจสุขภาพ พบปะแพทย์สัตวแพทย์เป็นประจำเพื่อตรวจสุขภาพของแมวอย่างสม่ำเสมอ นี่จะช่วยให้คุณตรวจจับโรคหรือปัญหาสุขภาพที่มีขึ้นได้เร็วขึ้น 6.การเลือกที่ตั้ง หากเป็นไปได้ ควรเลือกที่ตั้งที่แมวไม่ได้รับความเปียกชื้นหรือเย็นเย็นมากเกินไป เช่น หลีกเลี่ยงให้แมวนอนหรืออาบน้ำในพื้นที่ที่มีลมพัดเย็น 7.การตรวจสุขภาพที่บ้าน ควรเฝ้าระวังสัญญาณของการเจ็บป่วยของแมว เช่น การไอ หรือหายใจเหนื่อย หากมีอาการผิดปกติ ควรพาแมวไปพบสัตวแพทย์ทันที 8.การให้ความอบอุ่น ในวันที่อากาศเย็น ให้มีผ้าห่มหรือที่นอนอบอุ่นเสมอให้แมว เพื่อให้พวกเขารู้สึกอุ่นๆ และสบายตัว 9.ความสะอาดของสิ่งแวดล้อม ให้ทำความสะอาดบ้านและพื้นที่ที่แมวอาศัยอยู่อย่างสม่ำเสมอ เช่น ห้องนอนแมวหรือพื้นที่ที่พวกเขาชอบนอน เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรคและแมลง สรุป การดูแลแมวในช่วงหน้าฝนนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ เพื่อให้พวกเขาสามารถทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของอากาศได้อย่างมีความสุขและแข็งแรง ดังนั้นเราทุกคนจะต้องให้การดูแลและเอาใจใส่ดูแลอย่างดีเพื่อให้พวกเค้าอยู่กับเราได้นาน
ได้รับรางวัลธุรกิจยอดเยี่ยมเเห่งปี
ข่าวสารและสาระน่ารู้ ได้รับรางวัลธุรกิจยอดเยี่ยมเเห่งปี ขอเเสดงความยินดีกับสัตวเเพทย์หญิง ณัฐรดา วัฒนาชยากูล ประกรรมการบริหารบริษัท ศูนย์ สุขภาพณัฐรดา ที่ได้รับคัดเลือกเเละได้รับรางวัลธุรกิจยอดเยี่ยมเเห่งปี ในวันที่ 7เมษายน 2567 ทางโรงพยาบาลขอขอบคุณทุกๆภาคส่วนที่เห็นในความตั้งใจของโรงพยาบาล เห็นในความตั้งใจของพนักงานเเละหมอที่ทุ่มเทกับการทำงานค่ะ ขอบคุณสำหรับรางวัลนี้เเละเป็นเกียรติเป็นอย่างมากที่ได้เข้ารับคัดเลือกเเละได้รับรางวัลนี้ค่ะ ทางบริษัทกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
ฝึกอบรม Basic dentistry
ข่าวสารและสาระน่ารู้ ฝึกอบรม Basic dentistry เมื่อวันที่25-26มีนาคม 2567 สพ.ญ.ได้เข้ารับการฝึกอบรม Basic dentistry ณ คณะสัตวเเพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อสามารถรองรับเคสที่มีปัญหาเกี่ยวกับช่องปาก เช่น ช่องปากอักเสบ หินปูน ฟันผุ ถอนฟัน อุดฟัน เย็บเหงือก เพื่อเพิ่มประสิทํภาพในการรักษาได้เพิ่มมากขึ้นเเละวินิจฉัยโรคทางช่องปากได้ตรงจุด #หากน้องๆมีปัญห่ช่องปากสามารถติดต่อเข้ารับการตรวจเเละรักษาได้ค่ะ ทางโรงพยาบาลมีอุปกรณ์ทำฟันที่มีมาตรฐานเเละเครื่องมือครบครัน
ฝึกอบรม Abdominal ultrasound
ข่าวสารและสาระน่ารู้ เข้าการฝึกอบรม Abdominal ultrasound เมื่อวันที่9-10 มีนาคม 2567 สพ.ญ.ได้รับเข้าการฝึกอบรม Abdominal ultrasound ณ มหาวิทยาลัยสารคาม เพื่อให้น้องๆที่มาเข้ารับบริการได้มีการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้องมากยิ่งขึ้น #สนใจUltrasoundสามารถสอบถามได้เพิ่มเติมค่ะ